รายงานการศึกษาเรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning)
ผู้ศึกษา ดร. นิตยาพร กินบุญ (ครูชำนาญการพิเศษ)
สถานที่ทำงาน โรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น
ปีที่ทำผลงาน ๒๕๖๔
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) โรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) พัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ปีการศึกษา 2564 ให้สูงขึ้น ๒) เสริมสร้างผู้เรียนให้เกิดทักษะชีวิต และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ๓) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๑ โรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๓๙ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจงแบบการแบ่งกลุ่มคลัสเตอร์ (Cluster Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ๑) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน จำนวน ๑ หน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ ๒) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิด ๔ ตัวเลือก จำนวน ๔๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๕ แบบบันทึกการสังเกตการเรียนรู้ แบบมีโครงสร้าง และแบบสังเกตการเรียนรู้ตามทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ จำนวน ๑๐ ข้อ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๔ ๓) การวิเคราะห์ข้อมูลโดย การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test (Dependent Samples) หาค่าความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ประเด็นเชิงเนื้อหาข้อค้นพบพร้อมนำเสนอเป็นตารางประกอบความเรียง
ข
ผลการศึกษาพบว่า
๑. การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ปีการศึกษา 2564 จากการเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยนักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๒. ผู้เรียนเกิดทักษะชีวิต คิดเป็น แก้ปัญหาได้ ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนการเรียนรู้ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
X
= 4.57, S.D.= 0.72) โดยพบข้อสังเกตสำคัญคือ นักเรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลในแหล่งข้อมูลอื่น มีการเรียบเรียงและเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาที่ได้รับอยู่ในระดับดีมาก นักเรียนได้ฝึกคิดแก้ปัญหา สังเกต ตั้งคำถามในประเด็นที่สงสัย โดยใช้หลักการวิทยาศาสตร์ ค้นคว้าโดยใช้เทคโนโลยี และนำความรู้ที่ได้มาร่วมกัน ออกแบบ วางแผน และนำปัญหาที่สงสัยใคร่รู้ต่างๆ กลับมา ลงมือปฏิบัติ ทดลอง พัฒนา ประดิษฐ์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ระดมสมอง รับผิดชอบร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ใช้กระบวนการโครงงานในการวางแผน ออกแบบและคิดแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้กับชุมชนเพื่อต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้ ๓. นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการฝึกทักษะการปฏิบัติด้วยตนเอง มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการโครงงาน สามารถสื่อสารแบ่งปันความรู้และสามารถใช้ความรู้นำไปแก้ปัญหาในสถานการณ์อื่นไป มีความอดทน รับผิดชอบต่อกิจกรรมที่ได้ลงมือจนประสบผลสำเร็จ ทำให้เกิดความสามัคคีและภาคภูมิใจในตัวเอง และนักเรียนได้รับประสบการณ์ใหม่จากการได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองและได้เรียนรู้ไปพร้อมกันกับเพื่อนๆ สามารถนำกระบวนการโครงงานไปคิดวิเคราะห์ และวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบในการนำไปปรับใช้ในเรื่องการเรียนการสอนได้ ๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยกระบวนการ Active Learning รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) อยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 93.70
ดาวน์โหลด คลิก