ชื่อเรื่อง การพัฒนาการสร้างงานวีดิทัศน์รูปแบบหนังสั้นและ VTR เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับ

และมะเร็งท่อน้้าดีด้วยเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom) ร่วมกับ กระบวนการ GPAS 5 STEPS เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีด้านการสร้างสื่อ Digital ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางสาวไปรยา ประดิพัทธ์ลาวัณย์

หน่วยงาน โรงเรียนชุมแพวิทยายน อ้าเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น

ปีที่ศึกษา 2564

                                                             บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อการพัฒนาการสร้างงานวีดิทัศน์รูปแบบหนังสั้นและ VTR เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้้าดีด้วยเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ร่วมกับกระบวนการ GPAS 5 Steps เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีด้านการสร้างสื่อ Digital ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อส่งผลงานนักเรียนเข้าร่วมประกวดตามภายใต้โครงการวิจัยเรื่องความตระหนักเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้้าดีของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โดยความร่วมมือระหว่างคณะศึกาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บริษัทเชฟรอนประเทศไทย และสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้้าดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Online ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการน้าเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) มาใช้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จ้าเป็นต้องเรียนเฉพาะในชั้นเรียนเพียงเท่านั้น ฝึกให้ผู้เรียนประยุกต์ใช้ความรู้ในแต่ละสถานการณ์ อันจะก่อให้เกิดการ “รู้จริง(Mastery Learning) ” อีกทั้งยังส่งเสริม พัฒนาวิชาชีพครูที่น้าเทคโนโลยีมาปรับใช้ในภาวะปัจจุบันมากขึ้น ร่วมกับกระบวนการ GPAS 5 Steps ที่เน้นกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning พร้อมทั้งเป็นเจ้าของการเรียนรู้ ประกอบด้วย การแสวงหาข้อมูลรอบด้านเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์สรุปความรู้เพื่อวางแผนเตรียมปฏิบัติ การลงมือท้าจริง การแก้ปัญหาจริงเพื่อพัฒนาหาแนวทางที่ดีที่สุด การสื่อสารและน้าเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย และการสร้างคุณค่าให้ผลงานต่อยอดประโยชน์สู่สังคม กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมแพวิทยายน จังหวัดขอนแก่น ที่ก้าลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จ้านวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ บท/สคริปของเนื้อหาวีดิทัศน์, Storyboard ประกอบเนื้อหาผลงาน, โปรแกรม/Application ที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลและสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์และรายงานผลการสัมภาษณ์ผู้ชมผลงาน, แบบประเมินตนเองและแบบประเมินผลงานเพื่อน, ผลการส่งผลงานเข้าร่วมประกวด

ผลการวิจัยสรุปได้ว่าการพัฒนาบทเรียน มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายโดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนเป็นส้าคัญ โดยมีผลการจัดการเรียนรู้ในระดับที่ดีมาก พบว่า นักเรียนทุกคนมีผลงานที่สร้างสรรค์ครบทุกคน นักเรียนที่มีระดับคะแนนการประเมินอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม จ้านวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 92.30 อยู่ในเกณฑ์ดีมาก จ้านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.85 อยู่ในเกณฑ์พอใช้ จ้านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.85 รวมค่าเฉลี่ยระดับคะแนนการประเมินทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 89.04 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี-ดีมาก ร้อยละ 96.15 สูงกว่าเกณฑ์การประเมินตามที่ตั้งไว้

ตลอดจนได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลชมเชยการประกวดสปอตโฆษณา หัวข้อ “ผู้น้านักเรียนกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้้าดีในชุมชน” ภายใต้โครงการวิจัยเรื่องความตระหนักเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้้าดีของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โดยความร่วมมือระหว่างคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บริษัทเชฟรอนประเทศไทย และสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้้าดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น